Director of the Toot Yung Art Center since 2008, Myrtille Tibayrenc has become well known for her unconventional curatorial projects, and more recently for her work as an artist following an acclaimed debut at Serindia Gallery in Bangkok in 2017. Since then, she has regularly exhibited at both unorthodox sites and established venues in Bangkok and Chiang Mai. With the current closure of her art center during the pandemic, she has come to increasingly focus on her painting career.
Tibayrenc is a French citizen and grew up in Bolivia, the US and France. She graduated from the Ecole des Beaux Arts in Dunkirk and continued her arts training at the Ecole des Beaux Arts in Marseille, before moving to Thailand in 2006. Her figurative work, inspired as much by observation and photography as by images yielded from the web, is painterly and provocative. She works in large series, creating clusters of paintings resembling ex-voto walls found in churches. Each painting, at times very small, is worked like an icon, on wood or canvas. Composed of a strong central figure with a bare background, her technique and choice of subjects are directly inspired by renaissance masters enhancing both the timelessness and anachronism of her images.
ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการของตูดยุงอาร์ตเซ็นเตอร์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 มิร์ทิลล์ ทิแบย์เรงซ์เป็นที่รู้จักจากผลงานที่ไม่เป็นไปตามขนบในฐานะภัณฑารักษ์ รวมถึงงานที่พึ่งผ่านมาไม่นานของเธอในฐานะศิลปิน ที่เริ่มต้นจากการเปิดตัวที่รับเสียงตอบรับที่ดีจากการแสดงผลงานที่เซรินเดีย แกลเลอรีในกรุงเทพมหานคร ในปี พ.ศ. 2560 ตั้งแต่นั้นมาเธอได้แสดงผลงานอย่างต่อเนื่องทั้งในพื้นที่ทางเลือก และสถาบันศิลปะที่ได้รับการยอมรับทั้งในกรุงเทพมหานครและเชียงใหม่ ด้วยสถานการณ์ที่ทำให้ตูดยุงอาร์ตเซ็นเตอร์ต้องปิดตัวลงท่ามกลางการระบาดใหญ่ เธอจึงได้มุ่งหน้าทำงานจิตรกรรมของเธอมากขึ้น
ทิแบย์เรงซ์เป็นประชากรฝรั่งเศสและเติบโตในโบลิเวีย สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส เธอจบการศึกษาจากเอกอล เด โบซาร์ในดันเคิร์ก และศึกษาต่อด้านศิลปะที่เอกอล เด โบซาร์ในมาร์เซย์ ก่อนที่เธอจะย้ายถิ่นฐานมาที่ประเทศไทยในปี พ.ศ. 2549 ผลงานที่รูปธรรม ได้รับแรงบันดาลใจมาจากทั้งการสังเกต และ ภาพถ่าย และความเชื่อมโยงของรูปภาพกับข้อมูล ซึ่งมีความเป็นจิตรกรรมอย่างเห็นได้ชัดและมีความรุกเร้ายั่วยวน เธอสร้างผลงานเป็นชุดใหญ่ โดยเธอทำสีเป็นก้อน ๆ คล้ายกำแพงอดีตโวโตที่พบตามโบสถ์ ผลงานจิตรกรรมของจะมีขนาดเล็กมาก แต่ละชิ้นจะทำงานเหมือนเป็นสัญลักษณ์ และอยู่บนไม้หรือผ้าใบ ผลงานของเธอจะถูกจัดวางโดยมีงานชิ้นตรงกลางที่โดดเด่นอยู่พื้นหลังสีเรียบ เทคนิคและประเด็นที่เธอเลือกได้แรงบันดาลใจโดยตรงมาจากศิลปินชั้นนำในยุคเรเนซองส์ ซึ่งผลักดันให้ผลงานของเธอมีความดูเหนือกาลเวลาและดูผิดยุคสมัยในเวลาเดียวกัน