Maitree

Siriboon

Thailand
1983

Maitree Siriboon is an independent artist. After completing his bachelor's degree from Faculty of Painting, Sculpture and Graphic Arts, Silpakorn University, he started his career as a photographer. He used photographs to raise questions about “cultural hierarchy” and “the Isarn identity”. In his debut series Isarn Boy Dream, 2006, he invited friends of various ethnicities and skin colours to visit his village near Ubon Ratchatani. His Isarn Boy Soi 4 series, 2009, invokes both Isarn, the improved region of the northeast, where many of Bangkok's service workers come from, and the longstanding gay district of Bangkok, Silom Soi 4. In his work from this period, however, the artist was always concerned with coming to terms with his own self in all its brokenness, contradictoriness and vulnerability. Siriboon quickly became well-known with these series. He also attracted attention with his beautiful, large-scale mosaic collages, influenced by the colourful mirror mosaics that decorate Thai temples, but also with his installations and performances. 

Maitree’s work has been shown throughout Southeast Asia and beyond: at the 4 Guangzhou Triennial (China, 2011), Photoquai (Paris, 2011), Art Stage Singapore (2012 and 2013), Me Love You Long Time (Boston Centre for the Arts, USA, 2013), Was ist Heimat (Museum Orth, Austria, 2017), Isan Contemporary Report (BACC, 2017), Spectrosynthesis II (BACC, 2019).

His recent exhibition, Kwai – sometimes I wish I was a Water Buffalo, was at Head High Second Floor, Chiang Mai's new non-profit Art Space, where the works from several creative periods and new works conceived for the exhibition were shown.

His artworks can be found in major private collections around the world.

Maitree Siriboon lives and works in Ubon Ratchatani and Bangkok, Thailand.

ไมตรี ศิริบูรณ์ เป็นศิลปินอิสระ หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เขาก็เริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นช่างภาพ เขาใช้ภาพถ่ายถามคำถามเกี่ยวกับ “ลำดับชนชั้นของวัฒนธรรม” และ “อัตลักษณ์ความเป็นอีสาน” ในผลงานชุดแรกของเขา “อีสานบอยดรีม” (พ.ศ. 2549) เขาได้ชวนเพื่อนจากหลากหลายเชื้อชาติและสีผิวมาเยี่ยมเยียนหมู่บ้านของเขาใกล้จังหวัดอุบลราชธานี ผลงานชุด อีสานบอย ซอย 4 (พ.ศ. 2552) ชวนให้นึกถึงทั้ง ภาคอีสาน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่พัฒนาที่ที่พนักงานบริการในกรุงเทพฯ จำนวนมากย้ายถิ่นฐานออกมา และ สีลมซอย 4  ย่านเกย์เก่าแก่ของกรุงเทพฯ ในการทำงานของเขาในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม ศิลปินมักกังวลย้อนคิดกลับมาหาตัวเองในความแตกสลาย ความขัดแย้ง และความเปราะบางไมตรีกลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วด้วยผลงานเหล่านี้

นอกจากนี้ เขายังได้รับความสนใจจากผลงานภาพปะติดโมเสกขนาดใหญ่ที่สวยงาม ซึ่งได้รับอิทธิพลจากภาพโมเสคกระจกหลากสีสันที่ประดับประดาวัดไทย และรวมถึงการจัดวางและการแสดงของเขาด้วย

ผลงานของไมตรีได้แสดงไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ที่อื่น ๆ เช่น ในงาน Guangzhou Triennial ครั้งที่ 4 (สาธารณรัฐประชาชนจีน พ.ศ. 2556) Photoquai (ปารีส พ.ศ. 2556) Art Stage Singapore (พ.ศ. 2557 และ 2558) Me Love You Long Time (Boston Center for the Arts สหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2558) Was ist Heimat (Museum Orth ออสเตรีย พ.ศ. 2560) Isan Contemporary Report (หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2560) Spectrosynthesis II (หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2562)

จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ผลงานจากยุคสร้างสรรค์หลายสมัยและผลงานใหม่สำหรับนิทรรศการ Kwai – sometimes I wish I was a Water Buffalo จะแสดงที่ Head High Second Floor พื้นที่ศิลปะ ไม่แสวงหากำไรแห่งใหม่ของเชียงใหม่

งานศิลปะของเขาสามารถพบได้ในคอลเล็กชั่นส่วนตัวที่สำคัญทั่วโลก

ไมตรี ศิริบูรณ์อาศัยและทำงานในอุบลราชธานีและกรุงเทพฯ ประเทศไทย

On Display at BAB2022